วังวนแห่งจิตใจ
ความกล้า และ ความกลัวเป็นสิ่งคู่กัน ขอบคุณความกลัว ที่ทำให้รู้จักความกล้า และขอบคุณความกล้า ที่ทำให้ความกลัวมลายหายไป ... ส่งประกวด(เพนตากอน)แต่ดันฝีมือไม่เข้าขั้น คนอ่านน้อยมาก เลยเอามาลงเป็นเรื่องสั้นซะเลย
ผู้เข้าชมรวม
1,174
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมอยู่ที่ไหน
. กำลังทำอะไร
และกำลังจะไปไหน
.
ผมอยู่ที่ดินแดนประหลาด กำลังเดินทาง และกำลังจะกลับบ้าน
กระแสลมอ่อนๆโบกพัดเส้นผมสีน้ำตาลเข้มซอยสั้นให้พริ้วไหว นัยน์ตาสีเดียวกันเหม่อมองออกไปยังสุดฟากฟ้า เด็กหนุ่มขยับดาบในมือมั่น ก้าวเท้าเข้าไปยังอุโมงค์เบื้องหน้า
“ทางออกทางเดียวคือ เจ้าต้องผ่านอุโมงค์ไป” นั่นคือคำบอกเล่าของชายชราสติไม่ดีที่เขาพบระหว่างทาง หลังจากที่หลงอยู่ในโลกประหลาดมาแรมเดือนเขายอมเสี่ยงทุกอย่าง เพื่อการที่จะได้ออกไป ได้กลับไปหาครอบครัวอีกครั้ง
อุโมงค์ทั้งมืดและน่ากลัว เด็กหนุ่มคลำทางสะเปะสะปะไปเรื่อย ไม่สำคัญว่าจะต้องเป็นทิศใดหรือทางใด เพียงแค่เขาออกไปจากที่บ้าๆนี่ได้ก็เป็นพอ
ฉับพลันอากาศในถ้ำก็ลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ดึงดาบขึ้นมากอดด้วยความเหน็บหนาว ไม่อุ่นกาย แต่อุ่นใจ
“รักษาดาบไว้ให้ดี มันจะคอยคุ้มครองเจ้า ปาฏิหาริย์ไม่เคยทำให้ผิดหวัง”คำบอกเล่าจากชายชราคนเดิม ผู้มอบดาบเล่มนี้ให้กับเขาโดยแลกกับเสื้อกันหนาวตัวหม่นของเด็กหนุ่ม ตอนนี้เด็กหนุ่มคิดว่าเขาอยากแลกเอาเสื้อกันหนาวกลับมาคืนเต็มแก่
“ข้ามีดีมากกว่าเสื้อเก่าๆของเจ้าน่า” เสียงหนึ่งสวนเข้ามาในความคิด
“เฮ้ย!!ผีหลอก” เด็กหนุ่มอุทานพร้อมกับโกยแน่บทันที
“หยุดปากพล่อยๆของเจ้าเสีย เพราะข้าไม่ใช่ผี”
ตึก ตัก ตึก ตัก โครม!! เป็นอันว่าเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลสะดุดเท้าตัวเองล้มไปซะงั้นเลย
“ถ้าแกไม่ใช่ผี แล้วเป็นตัวอะไร” เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาปัดฝุ่นที่กางเกงของตัวเอง แต่ก่อนที่เสียงลึกลับจะได้ตอบ บางอย่างเปียกๆเย็นๆสัมผัสเข้าที่ต้นคอ
ฉัวะ!!
เหวี่ยงดาบออกไปโดยอัติโนมัติ เสียงกรีดร้องเหมือนนกอินทรีดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เลือดสีดำข้นทะลักออกมาจากบาดแผล สาดกระเซ็นมาเปรอะร่าง พานเอาขนลุกซู่
"มัวยืนบื้ออะไรอยู่ วิ่งดิ! วิ่ง!!" เสียงลึกลับตะโกนบอก เด็กหนุ่มออกวิ่งทันที
กรีซซซซซซซซ!!
ควับ!!
ฉัวะ!!
ปิศาจกระโจนออกมาจากความมืด กรงเล็บกางออก ตะบบเต็มแรงเข้าที่หัวไหล่ ร่างของเด็กหนุ่มกระเด็นตามแรงกระแทก ลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนจะถูกปิศาจซัดลงมาเบื้องล่าง
พรืดดดด
ไถลไปบนพื้นหิน ครวญครางด้วยความเจ็บปวด บาดแผลที่หัวไหล่เปิดกว้างมากขึ้น
"ลุกขึ้นมาสิ!!" เสียงลึกลับสั่งก้อง
"ไม่ไหว" เด็กหนุ่มตอบกลับไปอย่างแผ่วเบา ลมหายใจถี่รัว
"ลุกขึ้นมา!! ไม่ก็ตาย!!"
ราวกับมีอำนาจบางอย่างสาดเข้ามา ฉุดกระชากเด็กชายให้ลุกขึ้นยืน กวาดสายตาไปรอบๆ ไม่มีปิศาจ ไม่มี ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นมากุมหัวใจ ที่กำลังเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก อะดรีนาลีนทำงานของมันอย่างเต็มที่ ความเจ็บปวดจากต้นแขนกำลังพุ่งพล่าน เผลอปล่อยดาบอย่างไม่รู้ตัว
เคร้ง
ดาบกระแทกเข้ากับพื้นหิน ราวกับเป็นสัญญาณสั่งให้เริ่มต้น กรงเล็บหนาหวดเข้าที่หน้าท้อง ร่างปลิวหวือ กระแทกกับผนัง เลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นสายธาร ดวงตาเริ่มพร่ามัว ความเจ็บปวดหายไปหมดแล้ว แต่รู้สึกชาๆเหมือนฝันไป
ผมอยู่ที่ไหน
. กำลังทำอะไร
และกำลังจะไปไหน
.
ผมอยู๋ในอุโมงค์ กำลังจะตาย และกำลังจะไปยังนรก
"นายจะยอมแพ้อยู่เพียงเท่านี้หรือ" เสียงลึกลับถาม
"
อืมมม
."
"ถ้านายไม่สู้เพื่อตัวเอง ก็สู้เพื่อคนอื่นสิ" เสียงลึกลับยังคงเซ้าซี้
"ไปให้พ้น ผมจะนอน" เด็กหนุ่มปิดตาลงอย่างช้าๆ
“ทั้งพ่อ แม่ เพื่อนฝูง ทุกคนกำลังรอการกลับไปของเจ้า เจ้าจะทิ้งให้พวกเขารอหรือ”
“
.”
“มีคนมากมายเคยมาที่นี่ หลายชีวิตต้องจบสิ้น แต่อีกหลายชีวิตมุ่งหน้าต่อไป” เสียงลึกลับเปรย
“ทำไมนายไม่ลุกขึ้นสู้ล่ะ นายกลัวอะไร” เสียงลึกลับร้องถามด้วยน้ำเสียงกร้าว
“ผะ
ผม
..”
ทำไมผมถึงไม่ลุกขึ้นสู้ ทำไมผมถึงมานั่งรอความตาย โดยไม่คิดต่อต้าน
ความกลัว ผมกลัว กลัวหรือ กลัวทำไม กลัวให้ได้อะไรขึ้นมา
ผมอยู่ที่ไหน
. กำลังทำอะไร
และกำลังจะไปไหน
.
ผมอยู่ที่เส้นกั้นความเป็นกับความตาย กำลังสู้กับตัวเอง และกำลังจะกลับไปหาทุกคนที่ผมรักและรักผม
คิดได้ดังนั้น เด็กหนุ่มก็ทะลึ่งพรวดกลับขั้นมายืนบนขาตัวเองอีกครั้งด้วยแรงทั้งหมดที่มี เซบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้
“เจ้าตัดสินใจหรือยัง” เสียงลึกลับเอ่ยถาม
“ผมจะสู้” สิ้นคำประกาศ แสงสีขาวสว่างเปล่งประกายออกมาจากริมอุโมงค์ วัตถุที่กำลังเปล่งแสง พุ่งเข้ามาหยุดอยู่หน้าเด็กหนุ่ม
“จงรับข้าเป็นส่วนหนึ่งในตัวเจ้า พลังข้าคือพลังเจ้า”
เด็กชายเอื้อมมือไปรับดาบสีเงิน ทันทีที่สัมผัสกับด้ามดาบ ความอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาจากตัวดาบไหลผ่านร่างของเขาไปยังทุกส่วนของร่างกาย ปลุกทุกอณูแห่งความกล้าให้ลุกโชน
ดวงตาสีม่วงของปิศาจสะท้อนอยู่ในความมืดมิด ริมฝีปากแสยะยิ้มเตรียมรับศึกใหม่อย่างท้าทาย
.
เด็กหนุ่มเช็ดรอยเลือดบนใบดาบอย่างช้าๆ หลังการต่อสู้สิ้นสุดลงปิศาจก็แหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี เด็กหนุ่มสัมผัสแผลตนเองอย่างแผ่วเบา ยังเจ็บอยู่แต่ว่าเลือดหยุดไหลแล้ว
“ขอบใจมากนะ”เด็กหนุ่มกล่าวกับดาบเล่มนั้น
“อย่าขอบคุณข้าเลย ขอบคุณตัวเจ้าเองดีกว่า”เสียงลึกลับตอบแฝงแววเอ็นดูน้อยๆ “ให้ผมเรียกคุณว่าอย่างไรดี”
“ปาฏิหาริย์คือนามของข้า”
แสงสว่างลอดผ่านจากปากทางอุโมงค์
“ทางออก!!”เด็กหนุ่มอุทานด้วยความดีใจพร้อมทั้งสาวเท้าไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยว!!”
”หืม
มีอะไร” “เจ้าพาข้าไปด้วยไม่ได้ ข้าอยู่ที่นี่และเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
“แล้วจะให้ผมทำอย่างไร”
“ทิ้งข้าไว้สิ” เกิดความลังเลใจขึ้นมา ใจหนึ่งเด็กหนุ่มอยากกลับบ้าน แต่อีกใจกลับไม่อยากทิ้งผู้ร่วมชะตากรรมไว้เบื้องหลัง
“ผมคงคิดถึงคุณ”
“ข้าไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน ข้ายังคงเป็นส่วนหนึ่งในตัวเจ้า และจะอยู่กับเจ้าตลอดไป หากเจ้าไม่ละทิ้งข้า”
เด็กหนุ่มอมยิ้ม รู้สึกถึงความอิ่มเอมใจ บรรจงวางดาบไว้ที่มุมถ้ำ
“ความกล้าจะอยู่กับผมตลอดไป” เด็กหนุ่มเอ่ยคำมั่นสัญญา แล้วก้าวออกไปยังแสงสว่างเบื้องหน้า คำถามเดิมวนกลับมาอีกครั้ง
ผมอยู่ที่ไหน
. กำลังทำอะไร
และกำลังจะไปไหน
.
ความกล้า และ ความกลัวเป็นสิ่งคู่กัน
ขอบคุณความกลัว ที่ทำให้รู้จักความกล้า
และขอบคุณความกล้า ที่ทำให้ความกลัวมลายหายไป
ความกล้าอยู่ในหัวใจเราทุกคน
อย่ารอช้าชักดาบแห่งความกล้าให้เจิดจรัสอีกครั้ง
ผลงานอื่นๆ ของ Blood~stream ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Blood~stream
ความคิดเห็น